ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีอิงค์เจ็ตได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการพิมพ์งานขนาดใหญ่ เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วยยกระดับผลลัพธ์ให้มีคุณภาพสูสีกับเทคนิคการพิมพ์แอนะล็อก นับตั้งแต่ปี 2554 ทาง IST METZ นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์หลอดยูวีประสิทธิภาพสูงและระบบยูวี แอลอีดี ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วย IST Intech สำหรับงานอิงค์เจ็ต การเชื่อมประสาน และการใช้งานเชิงอุตสาหกรรมอื่น ๆ
Since 2011 IST METZ offers together with IST INTECH the world’s largest product portfolio of high-performance UV lamp and UV LED systems for Inkjet, bonding and other industrial applications.
ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการพิมพ์อิงค์เจ็ตกับกระบวนการพิมพ์อื่น ๆ คือ ไม่จำเป็นต้องทำแผ่นเพลทแม่พิมพ์สำหรับการถ่ายโอนภาพลงบนวัสดุ ภาพจะถูกพิมพ์ลงไปโดยตรงโดยไม่ต้องสัมผัสวัสดุใช้พิมพ์ด้วยกระบวนการ "คอมพิวเตอร์สู่เครื่องพิมพ์" การพิมพ์อิงค์เจ็ตแยกความแตกต่างระหว่างรูปแบบภาพในรอบเดียว (ระบบ single-pass) และรูปแบบภาพในหลายรอบ (ระบบ multi-pass) โดยระบบ single-pass จะให้คุณภาพการพิมพ์ที่จำกัดตามความละเอียดของหัวพิมพ์ ขณะที่ระบบ multi-pass จะให้คุณภาพการพิมพ์ที่สูงกว่า แต่ก็ตามมาด้วยต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าด้วย ในด้านเทคโนโลยี กระบวนการอิงค์เจ็ตยังโดดเด่นในด้านการสร้างเครื่องมือขนาดกะทัดรัดที่สุดสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลเป็นภาพพิมพ์ลงบนวัสดุใช้พิมพ์
การใช้หมึกพิมพ์มีด้วย 2 ตัวเลือก ซึ่งจะช่วยยกระดับความเป็นไปได้อีกมากมาย กระบวนการพิมพ์อิงค์เจ็ตแบบต่อเนื่อง คือ การพ่นละอองหมึกอย่างต่อเนื่อง โดยอาจเติมประจุไฟฟ้าให้กับละอองหมึกในระดับหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับภาพที่จะพิมพ์ ละอองหมึกส่วนเกินจะถูกเบี่ยงไปรวมไว้ด้วยกัน ส่วนละอองหมึกที่จำเป็นจะถูกพ่นลงไปบนวัสดุใช้พิมพ์ ด้วยกระบวนการพ่นหมึกเฉพาะส่วนที่ต้องการพิมพ์ ละอองหมึกจะพ่นออกมาในปริมาณที่จำเป็นเท่านั้น โดยแบ่งออก 2 แบบ คือ ละอองหมึกจากการให้ความร้อนหรือการระเหยของของเหลวในหัวฉีด (อิงค์เจ็ตความร้อน) หรือละอองหมึกที่เกิดจากการเปลี่ยนรูปของคริสตัลเพียโซอิเล็กทริก (piezoelectric) ซึ่งติดอยู่ที่หัวฉีดและเปลี่ยนรูปเมื่อได้รับแรงดันไฟฟ้า ละอองหมึกเป็นผลจากแรงดันส่วนเกินที่เกิดขึ้น ซึ่งจะพ่นออกจากหัวฉีดลงบนวัสดุใช้พิมพ์ (อิงค์เจ็ตแบบเพียโซ) การพัฒนาลักษณะการใช้สีประเภทนี้ช่วยทำให้ตลาดการพิมพ์อิงค์เจ็ตสามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีของเทคโนโลยียูวีเหล่านี้ได้ด้วย ระบบอิงค์เจ็ตเพียโซต่างจากระบบอิงค์เจ็ตความร้อนตรงที่จะให้ความถี่ที่สูงกว่าและสูตรสีที่หลากหลายกว่า
ส่วนใหญ่แล้ว การพิมพ์อิงค์เจ็ตจะใช้หมึกพิมพ์ที่มีความหนืดต่ำ (ของเหลว) ซึ่งช่วยให้สร้างชั้นความหนาได้หลากหลายเมื่อใช้หมึกพิมพ์โดยขึ้นอยู่กับหัวพิมพ์ ส่งผลให้งานพิมพ์มีคุณภาพสูงมาก การใช้หมึกพิมพ์ยูวีและแอลอีดีในการพิมพ์อิงค์เจ็ตยังมีข้อดีอีกหลายประการ ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัยของกระบวนการ นอกจากนี้ การพัฒนาระบบหมึกพิมพ์ยูวีที่ทำงานประสานกันและหัวพิมพ์ที่เหมาะสมก็สร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งด้านความทนทานของหมึกพิมพ์ ความทนทานต่อการซีดจาง ตลอดจนความเสถียรทางเคมีและเชิงกล โดยไม่ต้องเคลือบหรือผสานชั้นฟิล์มเพิ่มเติมแต่อย่างใด หมึกพิมพ์ยูวีและแอลอีดีเป็นสูตรชนิดแข็ง 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสารประกอบตัวทำละลาย จึงไม่เหือดแห้ง ปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกิดจากหมึกพิมพ์ และเป็นไปตามค่าจำกัดที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาและทำความสะอาดเครื่องพิมพ์มากนัก เนื่องจากหมึกพิมพ์ยูวีและแอลอีดีจะแห้งเมื่อสัมผัสกับแสงยูวีเท่านั้น